23 พฤษภาคม 2566

เกิดเหตุไฟไหม้รถกระบะขนวัสดุไวไฟ ผ่านกลางเมืองนครสวรรค์ ก่อนลุกลามไหม้บ้านริมถนนวอด 4 หลัง

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 พ.ต.ท.เสกสรร สุขเกษม สารวัตรเวร สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์กระบะแล้วลุกลามไปยังบ้านของประชาชนที่อยู่ริมทาง ใกล้กับโรงเรียนมูลนิธิแสงสวรรค์ ถ.มาตุลี ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงรีบประสานแจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครนครสวรรค์เข้าระงับเหตุดังกล่าวก่อนรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที แล้วพบว่า เพลิงกำลังโหมไหม้รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ตอนเดียว สีน้ำเงิน อย่างรุนแรง จึงส่งผลทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมทาง ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น ตั้งติดกันอยู่ 4 คูหา ถูกไฟไหม้ลุกลามตามไปด้วยส่วนทางเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงเทศบาลนครนครสวรรค์ ต้องใช้รถบรรทุกน้ำ ถึงจำนวน 8 คัน ระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้ แต่ในช่วงแรก ก็มีความยากลำบากอยู่พอสมควร เนื่องจากต้นเพลิงจากรถกระบะ เป็นรถกระบะบรรทุกน้ำมันและทินเนอร์มาเต็มคันรถ จึงทำให้ยิ่งเกิดการเผาไหม้เพิ่มขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาในการระดมฉีดน้ำสกัดไฟไหม้ทั้งหมดอยู่ประมาณ 45 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ส่วนการตรวจสอบความเสียหาย พบว่า ทั้งรถกระบะ และบ้านไม้ 2 ชั้น เลขที่ บ้านเลขที่ 842-845 จำนวน 4 คูหา ถูกไฟเผาทำลาย ได้รับความเสียหายทั้งหมด 100 เปอร์เซ็น อีกทั้งยังมีบ้านที่อยู่ติดกัน ได้รับความเสียหายเล็กน้อยด้วย แต่เคราะห์ดี ที่บ้านที่ถูกไฟเผาทั้ง 4 หลัง ไม่มีคนพักอยู่อาศัย จึงทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ส่วนผู้ขับรถกระบะตัวต้นเพลิง ทราบว่า ได้ทิ้งรถหลบหนีไปตั้งแต่เกิดเพลิงไหม้ในช่วงต้นแล้ว ซึ่งขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังไล่ติดตามผู้ขับรถกระบะคันดังกล่าว มาดำเนินคดีอย่างไรก็ตาม จากการสอบถาม นายนิรุจ เกิดศิริ อายุ 45 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่ง ได้เปิดเผยว่า ขณะกำลังกลึงเหล็กอยู่ในร้านของตนเอง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่ถูกไฟไหม้ ปรากฏว่า ได้ยินเสียงแตรของรถยนต์หลายคัน รัวกันบีบแตรคลายเหมือนเตือนอะไรสักอย่าง จึงได้รีบวิ่งออกไปดูที่หน้าร้าน ก็พบว่า ฝั่งตรงข้าม กำลังมีไฟไหม้อยู่ที่ท้ายรถกระบะแบบติดคอกเหล็ก และมีสิ่งของบรรทุกมาเต็มรถ ซึ่งตอนนั้น ตนเห็นเลยว่า คนขับรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งดูแล้ว น่าจะมีอายุประมาณ 20 ปีต้นๆ ได้เปิดประตูรถแล้วรีบวิ่งหนีออกมาก่อนหายไปเลย ทิ้งรถที่กำลังมีไฟไหม้ให้ลุกลามไปติดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้าก่อนจะลามต่อไปติดบ้านไม้เก่า 2 ชั้น  ที่ปลูกติดกัน 4 คูหาจนวอดไปตามๆ กัน ซึ่งในตอนแรก ที่บ้านตนมีถังดับเพลิงอยู่ ก็ได้นำไปพยายามช่วยดับให้นะ แต่ไฟมันโหมรุนแรงมาก ช่วยไม่ไหว อีกทั้ง ตอนที่ตนวิ่งไปช่วยดับไฟ ก็ได้กลิ่นของน้ำมันและทินเนอร์โชยออกมารุนแรงมาก จึงทำให้รู้ว่า ที่ท้ายกระบะ มีการบรรทุกน้ำมัน และทินเนอร์ เอาไว้ จึงทำให้มันเกิดไฟเผาไหม้อย่างรุนแรงและลุกลามอย่างรวดเร็วด้านนายอมรเทพ สำราญสุข เล่าว่า ตนมีบ้านตอดอยู่กับบ้านไม้ที่ถูกไฟไหม้ ตอนนั้น ตนนั่งอยู่หน้าบ้าน จู่ๆ ก็มีรถกระบะ ที่ด้านท้ายกำลังมีไฟไหม้ ขับมาจอดอยู่เยื้องกับบ้าน ตนก็รีบวิ่งออกไปดู ก็พบว่า คนขับเปิดประตูรถวิ่งออกมาหน้าตาตื่น ตนก็ตะโกนถามคนขับไปว่า บรรทุกอะไรมา คนขับก็ตามว่าเป็นน้ำมันเก่า แล้วเขาก็รีบวิ่งข้ามถนนหายไปอย่างไร้เงาทันที ปล่อยให้รถที่ขับมาถูกไฟไหม้แล้วลุกลามไปเผาบ้านริมทางจนวอดไป 4 คูหา ซึ่งไฟก็เกือบลามเข้ามาที่บ้านตนด้วย แต่โชคดี ที่ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาทันเวลาเสียก่อน ไม่งั้น บ้านตนอาจจะได้รับความเสียหายไปอีกหลัง💣💣ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร​ 0619782952​💣💣

ไม่มีความคิดเห็น:

คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการจัดระเบียบสายไฟฟ้า สายสื่อสารและการบริหารจัดการไฟฟ้าส่องสว่างอย่างทั่วถึงทั้งประเทศสภาผู้แทนราษฎร ติดตามการนำสายสื่อสารลงดิน ที่จังหวัดนครสวรรค์​

     ผู้​สื่อข่าว​ราย​งานว่า​ เมื่อเวลา 13.00 น ที่ห้องประชุม 3/3 เทศบาลนครนครสวรรค์ : นายสัญญา นิลสุพรรณ  ประธานคณะกรรมาธิการ  ...