30 พฤษภาคม 2568

กอ.รมน.นครสวรรค์ เชิงรุกเน้นส่งเสริมเด็ก เยาวชน ตระหนักรู้ และปลูกฝังจิตสำนึกให้เกิดความรัก ความภาคภูมิใจในสถาบันหลักของชาติ จัดโครงการประกวดกล่าวสุนทรพจน์”เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎา มหามงคล” ชิงทุนการศึกษา

นครสวรรค์ –   พ.อ. อภิเดช  ผลทวี รอง ผอ.รมน.จังหวัดนครสวรรค์ (ฝ่ายทหาร) เป็นประธานพิธีเปิดโครงการ“เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๒๘ กรกฎา มหามงคล”และมอบโล่รางวัลและเกียรติบัตรให้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมประกวดสุนทรพจน์เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ณ หอประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ มีนักเรียน คณะครู ผู้ปกครอง ร่วมกิจกรรม จำนวน ๑๒๐ คน โดยมี พ.ท.วัลลภ ภักดี กอ.รมน.จังหวัดนครสวรรค์ หัวหน้าโครงการกล่าวรายงาน มีนักวิชการ ร.ต.อ.ดร.อธิคม เรียมศรีสกุล อาจารย์ศูนย์ฝึกและอบรมตำรวจภูธรภาค6 ช่วยราชการ กอ.รมน. นายสาโรจน์ เพ็งชอุ่ม จากมหาวิทยาลัยเจ้าพระยา ผศ.ดร.คุณากร กรสิงห์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ และรศ.ดร.สุพรต บุญอ่อน จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นกรรมการตัดสิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความตระหนักรู้และปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนได้เกิดความรัก ความภาคภูมิใจในสถาบันหลักของชาติได้รับทุนการศึกษาและยังได้เป็นตัวแทนจังหวัดไปแข่งขันระดับประเทศต่อไปส่วนผลการแข่งขันชนะเลิศได้แก่นางสาวกัญญาวีร์  อุบลชาติ นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนลาซาลโชติรวีนครสวรรค์ หัวข้อสุนทรพจน์ "เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว"ได้รับทุนการศึกษา 1หมื่นบาท รองชนะเลิศนางสาวณัฐณิชา  โพธิ์ฤทธิ์  นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนนครสวรรค์ หัวข้อสุนทรพจน์ "พระราชาผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจแห่งการทำความดี" รับทุนการศึกษา 5 พันบาท และ รางวัลชมเชย 3 รางวัล นางสาวจิตติภัทรา อ่อนสอน  นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนหนองบัว หัวข้อสุนทรพจน์ "ใต้ร่มพระบารมี สดุดีพระเกียรติคุณ รัชกาลที่ 10" นางสาวมัญชุตา  ประเสริฐศรี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนพยุหะพิทยาคม หัวข้อสุนทรพจน์ "พระมหากรุณาธิคุณของในหลวงต่อปวงชนชาวไทย (ด้านการศึกษา) และนางสาวศรัณย์พร  โนรี นักเรียนชั้นม.5 โรงเรียนนวมินทราชูทิศ มัชฌิม หัวข้อสุนทรพจน์ "ทศมราชัน นครสวรรค์ร่มเย็น"#รอบ​รั้ว​ภูธร​ซีซั่น​2​ (0619782952​-0838823240)

นครนายก - ครูน้อมผู้ใหญ่ใจดีเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนวัดคีรีวัน

เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 ที่โรงเรียนวัดคีรีวัน ตำบลศรีนาวา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก คุณวกุล เข็มนาค (ครูน้อม) ตำแหน่งผู้ประนีประนอมศาลจังหวัดนครนายก ที่ปรึกษาตำรวจภูธรภาค 2 กก.ตร.ภจว.นครนายก และเป็นเจ้าของร้านอาหารครัวครูน้อมโฮมสเตย์ พร้อมคณะลูกๆ ได้จัดอาหารราดหน้า และสิ่งของต่างๆนำมาเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กนักเรียนที่โรงเรียนวัดคีรีวัน มีนักเรียนและสามเณรรวมทั้งหมดจำนวน 85 คน พร้อมมอบทุนอาหารกลางวันให้กับคุณครูเพื่อนำไปใช้จ่ายในการทำอาหารให้กับเด็กนักเรียน โดยมีคุณครูได้นำเค้กมาอวยพรวันเกิดย้อนหลังวันคล้ายวันเกิดให้กับคุณวกุล เข็มนาค (ครูน้อม) โดยมีนางสาวกัญญาณัฏฐ พันธ์ผลไร่ ผู้อำนวยการโรงเรียนาัดคีรีวัน พร้อมคณะคุณครู ให้การต้อนรับสร้างความประทับใจแก่เด็กนักเรียนที่วันนี้ได้มีผู้ใหญ่ใจดีมาจัดเลี้ยงอาหารกลางวัน ทางนางสาวกัญญาณัฏฐ พันธ์ผลไร่ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดครีวัน พร้อมคณะคุณครูได้ขอขอบคุณครูน้อมพร้อมลูกๆที้ได้นำอาหารมาเลี้ยงในวันนี้สัมภาษณ์ คุณวกุล เข็มนาค (ครูน้อม)สัมภาษณ์ นางสาวกัญญาณัฏฐ พันธ์ผลไร่ ผอ.โรงเรียนคีรีวันสมบัติ เนินใหม่//รัชชานนท์ เนินใหม่//ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครนายก

มุกดาหาร​ -​นอภ.นิคมคำสร้อย นำ จนท. ร่วมให้กำลังใจครอบครัว “ภูมิลา” หลังสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุต้นไม้ล้มทับรถ​

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม  นายวิรัตน์ เจริญจิตร์ นายอำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ และโรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจแก่ครอบครัว “ภูมิลา” ณ บ้านเลขที่ 117 หมู่ 4 บ้านหนองนกเขียน ตำบลร่มเกล้า หลังเกิดเหตุสลดใจจากอุบัติเหตุต้นไม้หักโค่นล้มทับรถยนต์ช่วงเช้าของวันเดียวกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย ได้แก่ นายสุพจน์ ภูมิลา อายุ 54 ปี และนางทองเลข ภูมิลา อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของครอบครัว ขณะที่ลูกสาว นางสาวศิริรัตน์ ภูมิลา อายุ 17 ปี ซึ่งนั่งอยู่ในแคปด้านหลังของรถยนต์คันเกิดเหตุ ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายหัก ขณะนี้ยังอยู่ในช่วงพักฟื้นและยังคงมีอาการโศกเศร้าจากการสูญเสียเสาหลักของครอบครัวโดยนายอำเภอนิคมคำสร้อยได้เป็นตัวแทนมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมกระเช้าสิ่งของให้แก่นางสาวศิริรัตน์ เพื่อเป็นการปลอบขวัญและเยียวยาจิตใจในเบื้องต้น ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลดของญาติพี่น้องและชาวบ้านในชุมชนทั้งนี้ ครอบครัวของผู้สูญเสียมีอยู่ด้วยกัน 4 คนประกอบด้วย นายสุพจน์  ภูมิลา อายุ 54 ปี  นางทองเลข  ภูมิลา อายุ 49 ปี เป็นพ่อและแม่ นายอาทร  ภูมิลา อายุ 29 ปี  ลูกชายปัจจุบันมีครอบครัวและพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิและนางสาวศิริรัตน์  ภูมิลา อายุ 17 ปี ลูกสาวซึ่งอยู่ในรถคันเกิดเหตุและได้รับบาดเจ็บด้วย ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนร่มเกล้าพิทยาสรรค์ ทั้งนี้ชาวบ้านต่างแสดงความชื่นชมนายอำเภอนิคมคำสร้อยและเจ้าหน้าที่สาธารณสุข -โรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ที่ออกปลอบขวัญให้กำลังใจ เยียวยาแก่ครอบครัวผู้ประสบอุบัติเหตุอย่างรวดเร็ว#อุบัติเหตุต้นไม้ล้ม #ส่งกำลังใจให้น้องศิริรัตน์ #นิคมคำสร้อย #ข่าวเศร้า #ร่วมแสดงความเสียใจ #เยียวยาจิตใจ #เราจะไม่ทิ้งกัน #น้ำใจชาวมุกดาหาร​                ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777​

มุกดาหาร​ -​ทพ.2107 สกัดจับคนนามสกุลดัง ลักลอบขน จยย. ข้ามโขงส่ง สปป.ลาว​

เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ร.อ.พิชิตพล  เคนดา ผู้บังคับกองร้อยเฉพาะทหารพรานที่ 2107  (ผบ.ร้อย.ฉก.ทพ.2107) ได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบนำรถจักรยานยนต์ข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง พื้นที่ ม.1 ต.ดอนตาล อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร จึงสั่งการให้ จ.ส.ต.เมธาสิทธิ์ เนตรแสงศรี ผบ.ชป.4 (บ้านตาลใหม่) จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ บริเวณพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้ง ครั้นเมื่อเวลา 19.20 น. ชุดปฏิบัติการได้ตรวจการณ์เห็นเรือกีบติดเครื่องยนต์ วิ่งเข้ามายังฝั่งไทยจากนั้นได้มีชายว 2 คน นำรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 110 i  สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จูงลงบันไดเขื่อนป้องกันตลิ่งแม่น้ำโขง และนำรถจักรยานยนต์ขึ้นเรือกีบติดเครื่องยนต์ ชุดปฏิบัติการจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ แต่เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ก็ได้วิ่งหลบหนีแต่เจ้าหน้าที่สามารถวิ่งตามไปจับกุมตัวไว้ได้ 1 ราย คือ นายสมโภชน์ ศรีลาศักดิ์ อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 86 ม.4 บ.นาห้วยกอก ต.ดอนตาล  จึงได้ควบคุมตัวพร้อมตรวจยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนตาล ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป#ลักลอบขนรถส่งข้ามลาว​ #ขบวนการค้ารถข้ามชาติ​ #ชายแดนไทยลาว​ #ทหารพราน2107​ #ดอนตาล​ #มุกดาหาร​ #ข่าวภูมิภาค​ #ข้ามโขง​ #สกัดจับ​ #ข่าวด่วน​ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​  092-5259777​

มุกดาหาร​ -​ตาวูบหมดสติขณะขับรถกลับจากฟอกไต หน่วย EMS รพ.มุกดาหาร เข้าช่วยชีวิตได้ทัน

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เกิดเหตุชายสูงอายุ เกิดอาการวิงเวียน ชักและวูบหมดสติไปชั่วขณะข้างศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ขณะขับรถกระบะอีซูซุ ไฮแลนด์เดอร์ หมายเลขทะเบียน บง 4858 มุกดาหาร จะกลับบ้านหลังเสร็จสิ้นการฟอกไตที่โรงพยาบาลมุกดาหาร โชคดีที่รถเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลเมืองมุกดาหาร ผ่านมาประสบเหตุพอดี จึงได้เข้าช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมเรียกหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (EMS) โรงพยาบาลมุกดาหารมารับตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหารต่อไปสอบถามยายที่นั่งรถมาด้วยกันได้ความว่า เมื่อเช้าตาขับรถมาฟอกไตที่โรงพยาบาลมุกดาหารโดยมีตนนั่งมาด้วย หลังจากฟอกไตเสร็จเรียบร้อยขณะที่ตากำลังขับรถจะกลับบ้านปรากฏว่าเกิดอาการวิงเวียนจะเป็นลมและวูบหมดสติไปพักหนึ่ง ดังกล่าวเบื้องต้น คาดว่าชายคนดังกล่าวเกิดอาการวูบจากความเหนื่อยล้าหลังการฟอกไต หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ อย่างไรก็ตามต้องรอผลการวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจากแพทย์อีกครั้งหนึ่ง#วูบกลางถนน #ฟอกไต #ชายสูงวัย #เหตุการณ์ระทึก #พลเมืองดี #หน่วยEMSโรงพยาบาลมุกดาหาร #ช่วยชีวิตทันเวลา #ข่าวมุกดาหาร                                                  ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​  092-5259777​

มุกดาหาร​ -​ศุลกากรมุกดาหารจับโป๊ะ! พ่อค้าข้ามชาติแสบลอบขนสินค้าออกจากตู้ผ่านแดน ก่อนวางกล่องเปล่าตบตาเจ้าหน้าที่

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 สืบเนื่องจากนายธีรัชย์ อัตนวานิช อธิบดีกรมศุลกากร นางกิจจาลักษณ์ ศรีนุชศาสตร์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบสิทธิประโยชน์ทางศุลกากร และนาวสาวลลิตา อรรถพิมล ผอ.ศภ.2 มีนโยบายให้เข้มงวดในการตรวจสอบการกระท่าความผิดตามกฎหมายศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง นายกรณ์ชัย ปัญญาวัฒนพงศ์ นายด่านศุลกากรมุกดาหาร ได้รับข้อมูลว่ามีสินค้าผ่านแดนจำนวนมากถูกลักลอยขนย้ายโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงได้สั่งการให้นายคําพร ธุระเจน หัวหน้าฝ่ายปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามส่วนควบคุมทางศุลกากร ภาค 2 และ สำนักสืบสวนและปราบปราม 1 ตรวจสอบตู้สินค้าผ่านแดน ตามใบขนสินค้าผ่านแดน จํานวน 99 ฉบับ ซึ่งสําแดงชนิดสินค้าเป็นเครื่องแต่งกาย จํานวนรวม 581 หีบห่อ น้ำหนักรวม 7,728 กิโลกรัม โดยสินค้าดังกล่าวพ้นกําหนด 30 วัน ในอันที่จะต้องนําออกไปนอกราชอาณาจักร จึงตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติศุลกากร ผลการตรอจสอบพบว่ามีเพียงกล่องเปล่า 268 ชิ้น และพาเลทไม้ 24 ชิ้น ไม่พบสินค้าเครื่องแต่งกายตามที่สำแดงไว้ กรณีจึงมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่าผู้ขอผ่านแดน และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้นําสินค้าผ่านแดนออกจากตู้บรรทุกสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดฐานเคลื่อนย้ายของออกใปจากยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร เจ้าหน้าที่จึงได้ยึด/อายัดของดังกล่าว เพื่อติดตามผู้กระทำความผิดดําเนินการตามกฎหมายต่อไปภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

มุกดาหาร​ -​ผู้ว่าฯ มุกดาหาร ลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัว "ภูมิลา" ผู้ประสบเหตุ “ต้นไม้โค่นทับรถ” สูญเสียพ่อแม่ เหลือลูกสาววัยเรียน

วันที่ 27 พฤษภาคม 2568 นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัด ชมรมแม่บ้านมหาดไทย นายอำเภอนิคมคำสร้อย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบเหตุต้นไม้โค่นทับรถยนต์ขณะเดินทาง บริเวณบ้านเลขที่ 117 หมู่ 4 บ้านหนองนกเขียน ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหารเหตุสลดเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 26 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บนถนนสายบ้านชัยมงคล-บ้านหนองนกเขียน ต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับรถกระบะโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน บฉ 3270 มุกดาหาร ส่งผลให้ นายสุพจน์ ภูมิลา อายุ 54 ปี และนางทองเลข ภูมิลา อายุ 49 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ป่วย ส่วนลูกสาววัย 16 ปี ที่นั่งอยู่แคปด้านหลังได้รับบาดเจ็บขาดสายหัก และถูกนำส่งโรงพยาบาลนิคมคำสร้อย ล่าสุดอาการปลอดภัยแพทย์อนุญาตให้กลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้นายวรญาณ บุญณราช ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว ซึ่งผู้เสียชีวิตมีลูกสาวกำลังเรียนอยู่ชั้น ม 5 โรงเรียนร่มเกล้าพิทยาสรรพ์  ส่วนลูกชายอายุ 29 ปี ปัจจุบันมีงานทำและมีครอบครัวแล้ว เบื้องต้นได้มอบเงิน จาก เหล่ากาชาดจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 100,000 บาท มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ 20,000.บาทชมรมแม่บ้านมหาดไทย 20,000.บาท เงินช่วยเหลือตามระเบียบสำนักนายกฯ 80,000.บาท ชมรมดอกช้างน้าวบาน 23,000 บาท พร้อมหน่วยงานต่างๆ ให้การช่วยเหลือเป็นเงิน กว่า 400,000.บาท นายวรญาณ บุญณราช ยังได้กล่าวแสดงความเสียใจและให้กำลังใจ พร้อมให้แนวทางการดูแลเยียวยาช่วยเหลือ โดยมอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมขอให้ชุมชนช่วยกันให้กำลังใจประคับประคองครอบครัวให้ดำเนินชีวิตได้ต่อไป ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ได้กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมให้แนวทางในการดูแลและเยียวยาแก่ครอบครัว และขอความร่วมมือจากชุมชนร่วมกันเป็นกำลังใจให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตเพื่อประคับประคองครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้#กำลังใจจากผู้ว่า #มุกดาหาร #ข่าวมุกดาหาร #ต้นไม้ล้มทับพ่อแม่ #ช่วยเหลือผู้ประสบภัย #นิคมคำสร้อย #กำลังใจถึงครอบครัว #ผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร #เหล่ากาชาดมุกดาหาร #ข่าวชุมชน #ช่วยเหลือฉุกเฉิน #อุบัติเหตุต้นไม้ล้ม #ส่งกำลังใจให้น้องศิริรัตน์ #นิคมคำสร้อย #ข่าวเศร้า #ร่วมแสดงความเสียใจ #เยียวยาจิตใจ #เราจะไม่ทิ้งกัน #น้ำใจชาวมุกดาหาร​                 ภาพ​/ข่าว​ เด​วิท​ โชคชัย​ มุกดาหาร​ รายงาน​ 092-5259777

อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ลาดตระเวนยึดยาบ้าสองล้านกว่าเม็ด

28 พฤษภาคม  25668โดย พล.ต.ต.วรพัฒน์ บุญมา ผบก.ตชด.ภาค 3 ,พ.ต.อ.รังสิมันต์ สังเคราะห์ธรรม รอง ผบก.ตชด.ภาค33 และ พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ปัณฑรนนทกะ ผกก.ตชด.33ทราบข่าวว่ามีการขนยาเสพติดจากชายแดนเข้าสู่พื้นที่บ้านแม่จา  จึงให้พ.ต.ต.วุฒิพงศ์ สุภาวรรณ์ ผบ.ร้อย ตชด.335นำชุดปฏิบัติการเข้าทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจบริเวณบ้านแม่จาเหนือ  โดยร่วมกับกองกำลังผาเมือง โดย ฉก.ไชยานุภาพร่วม ร้อย.ตชด.335  ตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 15 กระสอบ รวม 2,300,000 เม็ด บริเวณ บ.แม่จาเหนือ ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่        เมื่อวันที่ 27 พ.ค.68 เวลา 17.00 ร้อย.ตชด.335 จัดกำลัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ ลาดตระเวนเฝ้าตรวจ บริเวณ บ้านแม่จาเหนือ ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จนเมื่อเวลา 21.00 ตรวจพบ กลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ประมาณ 10 คน ซึ่ง อยู่ในพื้นที่สูง เดินเท้าลงมาเชิงเขา ชุดปฏิบัติการจึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่กลุ่มขบวนการฯ ใช้ความชำนาญในพื้นที่ และ ทัศนวิสัยจำกัด หลบหนีไปได้ หน่วยจึงวางกำลังควบคุมพื้นที่ จนถึง วันที่ 28 พ.ค.68 เวลา 0630 จึงจัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจพบ ของกลาง กระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 15 กระสอบ จึงตรวจยึด ของกลางกระสอบละ 200,000 เม็ด จำนวน 8 กระสอบ รวม 1,600,00 เม็ด และกระสอบละ 100,000 เม็ด จำนวน 7 กระสอบ รวม 700,000 เม็ด รวม 2,300,000 เม็ด จะมีการแถลงข่าวต่อไปจากนั้นจะได้นำยาเสพติดที่ยึดได้ส่งเจ้าพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เพื่อทำการดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป #นายสำราญ  แสงสงค์  ข่าว 0818845313

ด่วน!!! "เสียงปืนแตก" ยิงปะทะทหารกัมพูชาที่ช่องบก ล่าสุดทหารไทยปลอดภัย ยังคงตรึงกำลังเข้มในพื้นที่​ี่

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ว่าเมื่อเวลา 05.30 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี รายงานว่าได้เกิดเหตุปะทะกับกำลังทหารกัมพูชาที่เข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศฝ่ายไทยได้ส่งชุดประสานงานเข้าพูดคุยตามแนวทางปกติ แต่เกิดความเข้าใจผิดจากฝ่ายกัมพูชาที่เข้าใจว่าเป็นการเคลื่อนกำลัง จึงเปิดฉากใช้อาวุธยิงใส่ ทำให้ฝ่ายไทยต้องตอบโต้ โดยการปะทะกินเวลาราว 10 นาทีต่อมาในเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ฝ่ายไทย เพื่อยุติการปะทะ ทั้งสองฝ่ายตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังในพื้นที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อหาข้อยุติในประเด็นการอ้างสิทธิ์ และวางแนวทางปฏิบัติร่วมกันอย่างสันติ โดยกองทัพบกยืนยันว่า กำลังพลฝ่ายไทยทุกนายปลอดภัย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมให้ทราบในโอกาสต่อไป#กองกำลังสุรนารี #กองทัพภาคที่2 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องบก #กองทัพบก #ปะทะชายแดน #ความมั่นคงชายแดน #เจรจาทวิภาคี #อุบลราชธานี #ทหารไทย #ทหารเขมร #ตรึงกำลัง #ข่าวสถานการณ์ล่าสุด​                         เด​วิท​ โชคชัย​ รายงาน​092-5259777​

โจรใต้บุกถล่มจุดตรวจโรงพักจะแนะ ตำรวจพลีชีพ1สาหัสอีก1

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 28 พ.ค.68 ขณะที่ ด.ต.ธีระศักดิ์ อ่อนทอง ผบ.หมู่ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าจุดตรวจจุดสกัด หน้า สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ ม.3 ต.จะแนะ ได้มีกลุ่มคนร้ายประมาณ 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ซึ่งแฝงตัวอยู่ซอยฝั่งตรงข้าม สภ.จะแนะ ยิงถล่มใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด จำนวน 8 นาย ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ห้องประชุมชั้น 3 ของอาคาร สภ.จะแนะ ใช้อาวุธปืนยิงสนับสนุนแต่ถูกคนร้ายยิงสวนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 1 นาย ซึ่งต่อมา นายพิชิต รุ่งประเสริฐ นายอำเภอจะแนะ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ อส.ที่ว่าการอำเภอจแนะ สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ยิงตอบโต้กับกลุ่มคนร้ายนานกว่า 15 นาที เมื่อเสียงปืนสงบลง พ.ต.อ.วีระศักดิ์ เพอแสนะ ผกก.สภ.จะแนะ ได้สั่งเจ้าหน้าที่เข้าเคลียร์พื้นที่ พบ ส.ต.อ.เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม ที่ปฏิบัติหน้าที่ที่จุดตรวจ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณหลังทะลุหน้าท้อง และพบ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณศรีษะ 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย ส่งรักษาที่โรงพยาบาลจะแนะอย่างเร่งด่วน แต่ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ อาการสาหัสได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ส.ต.อ.เจษฎา เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนคริมทร์ ต่อมา นายวิชาญ ชัยเศรษฐ์สัมพันธ์ รอง ผวจ.นราธิวาส พ.ต.อ.ดิเรก โฉมยงค์ รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้เดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าที่บริเวณกระจกหน้าต่างชั้นล่างห้องรับแจ้งความ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูโหว่ จำนวน 3 บาน และที่บริเวณห้องประชุมชั้น 3 กระจกหน้าต่างถูกกระสุนปืนของคนร้ายเป็นรูโหว่ 1 บาน 2 จุด พร้อมด้วยกองเลือดจำนวนหนึ่ง ตกอยู่ที่พื้นภายในห้องประชุม นอกจากนี้ที่บริเวณด้านหลังร้านค้า ซึ่งในวันนี้ได้ปิดกิจการที่อยู่ด้านซ้ายมือหัวมุมของซอยตรงกันข้ามของ สภ.จะแนะ ที่เป็นจุดคนร้ายใช้อาวุธปืนซุ่มยิง เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนของคนร้ายตกอยู่ เป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 และ อา.ก้า. จำนวนกว่า 30 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ ด.ต.ธีระศักดิ์ อ่อนทอง ผบ.หมู่ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าจุดตรวจจุดสกัด หน้า สภ.จะแนะ พร้อมพวกกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดหน้า สภ.จะแนะ ได้มีกลุ่มคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ที่แฝงตัวอยู่ด้านหลังของร้านค้าซึ่งตั้งอยู่หัวมุมของซอยตรงกันข้ามกับ สภ.จะแนะ ได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด จำนวน 8 นาย กระสุนปืนถูก ส.ต.อ.เจษฎา พรหมรัตน์ จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากยิงปะทะกัน และขณะนั้น ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง ซึ่งอยู่ที่ห้องประชุมชั้น 3 ของ สภ.จะแนะ เห็นกลุ่มคนร้ายกำลังยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่จุดตรวจ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ จึงได้เปิดหน้าต่างของห้องประชุม ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสนับสนุนใส่กลุ่มคนร้าย คนร้ายเห็นจึงใช้อาวุธปืนยิงสวนใส่ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ กระสุนปืนของคนร้ายโดนที่บริเวณศรีษะ จน ส.ต.อ.อัลดุลเลาะ ล้มทั้งยืนที่ห้องปะชุม ต่อมาเจ้าหน้าที่ อส.จะแนะและเจ้าหน้าที่ทหาร ที่อยู่ภายในบริเวณที่ว่า อ.จะแนะ ได้สนับสนุนใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้ใส่กลุ่มนร้าย จนเกิดการปะทะกันนานกว่า 15 นาที กลุ่มคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่เข้าสนับสนุน จึงได้อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป ซึ่งต่อมาเมื่อเสียงปืนสงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ พบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงได้รีบนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลจะแนะ และ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน ส.ต.อ.เจษฎา ได้ถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่มีการวางแผนมาอย่างดีเพื่อบุกสังหารเจ้าหน้าที่ ซึ่งล่าสุดทางผู้บังคับบัญชาพร้อมเครือญาติ จะเคลื่อนย้ายศพ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยจะมีการฝังศพ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ อย่างสมเกียรติที่กูโบร์บาเละบาโระ ม.2 ต.กาลิซา อ.ระแงะ จ.นราธิวาส#นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ

น่าน - Nan Pride Festival 2025 รวมพล LGBTQ+ เดินขบวนพาเหรด เฉลิมฉลองความเท่าเทียม

ค่ำวานนี้ 5 ก.ค. 68 ที่ลานข่วงน้อย ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นางวิไลวรรณ บุดาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธ...