รอบรั้วภูธรนิวส์: รองผู้ว่าฯ-ปากน้ำโพ เจาะคันดิน เร่งพร่องน้ำเข้าบึงบอระเพ็ดให้ได้มากที่สุด

วันที่ 3 ตุลาคม 2566 จากที่ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อรับมืออุทกภัยและเตรียมการด้านภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานการประชุมฯ พร้อมด้วย โครงการชลประทานนครสวรรค์ ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมอุตุวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมฯในครั้งนี้ โดยสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านมีระดับน้ำสูงกว่าน้ำในบึงบอระเพ็ด จึงมีมติที่ต้องเจาะคันกั้นน้ำ ที่ประตูระบายน้ำปากคลอง ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อให้น้ำไหลเข้าสู่บึงบอระเพ็ดให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ ทางด้าน นายนิพนธ์ ดวงดารา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน โครงการชลประทานนครสวรรค์ พร้อมด้วยผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ มีความเห็นตรงกันว่า ช่วงนี้ควรเก็บกักน้ำเข้าบึงให้ได้มากที่สุด เพราะน้ำในช่วงนี้จะเพิ่มสูงขึ้น จึงต้องเก็บน้ำในช่วงนี้ให้เต็มที่ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงกลางเดือนตุลาคมนี้ โดยในการลงพื้นที่ นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ได้ทำการเจาะคันดินครึ่งหนึ่ง เพื่อเร่งพร่องน้ำเข้าบึงบอระเพ็ด และได้สั่งให้สำนักงานประมงจังหวัดนครสววรค์ ยกประตูสถานประมง(ประตูดำ) เพื่อให้น้ำไหลผ่านได้มากที่สุด ทั้งนี้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ยังกำชับว่าถ้าปริมาณน้ำในแม่น่านมีปริมาณลดต่ำหรือเท่ากับระดับน้ำในบึงบอระเพ็ด ให้ปิดประตูสถานประมง(ประตูดำ)พร้อมทั้งทำคันดินประตูระบายน้ำปากคลอง ตำบลเกรียงไกร อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อไม่ให้น้ำในบึงไหลย้อนกลับลงแม่น้ำน่านอีก ทั้งนี้นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องนำน้ำในแม่น้ำน่านเข้าสู่บึงบอระเพ็ด เพราะระดับน้ำในแม่น้ำมีปริมาณมาก โดยตั้งเป้าไว้ว่าประมาณ 6 วันหลังจากนี้จะเก็บน้ำได้ปริมาณที่จังหวัดนครสวรรค์ตั้งเป้าไว้ประมาณ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร และย้ำให้กับพี่น้องชาวเกษตรกรว่าให้ใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อรับมือกัยสถานการณ์เองนีโญ โดยเป้าหมายหลักคือ อุปโภค-บริโภค และใช้รักษาระบบนิเวศในบึงบอระเพ็ด