04 มกราคม 2567

บัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคท้องที่ไทย ขอสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 3.48 ล้านล้านบาท

ซึ่งได้ขออภิปรายไปถึง 3 กระทรวง กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรว้งพาณิชย์นะครับ ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ใช้เงินใช้งบประมาณไปมากมายนะครับ การใช้จ่ายตอนนี้ใช้มากกว่าหา สิ่งที่จะหามาเติมตอนนี้ ผมมองอยู่ว่าการท่องเที่ยวและกีฬานะครับ โดยเฉพาะท่านนายกได้ไปเปิดฟรีวีซ่าของประเทศจีน วันนี้ก็มีข่าวดีจากทางจีนอาจจะมาทำ MOU กับทางเชียงราย เชียงใหม่ ซึ่งบินตรงในโอกาสที่จะฟรีวีซ่าที่จะมาถึงในเร็ววันนี้นะครับ 
ขออนุญาตให้เปิดไปในหลาย ๆ ประเทศนะครับ เพราะว่าการท่องเที่ยวของเรานี่จะได้ขายดี และเพื่อมันเป็นงบประมาณที่หาได้เยอะสำหรับในประเทศไทยในช่วงนี้ ก็ฝากทางรัฐบาลให้ดำเนินการเรื่องนี้ต่อให้เร็วที่สุด 
และอีกส่วนหนึ่งที่ส่วนเกี่ยวกับเรื่องเกษตร ส่วนใหญ่พวกเราบริโภคกันอยู่ทุกวัน 
ก็คือเรื่องข้าว เรื่องข้าวนี่คุยกันมาหลายรัฐบาลมาก ตั้งแต่ปี 2547 จนวันนี้ปี 2567 ใช้เวลาเกือบ 20 ปี เราใช้งประมาณไปประมาณเกือบ 2 ล้านล้านบาท โดยถัวเฉลี่ยปีหนึ่งประมาณเกือบ 100,000 ล้านบาท เราใช้งบประมาณแบบนี้ใช้ไปทุกปี ๆ ในภาษีของประชาชนที่หามาได้และ
ใช้ไป ๆ โดยทิศทางที่ยังหาไม่เจอว่ามันควรจะแก้ไขอย่างไรให้ถูกต้อง ผมก็ขอให้ข้อสังเกตอย่างนี้ข้าวเป็นส่วนประกอบของประเทศไทยและเป็นปัญหาของประเทศไทยที่ทุกรัฐบาลต้องแก้นะครับ ที่ผ่านมาก็มีอยู่ 2 เรื่อง ที่แก้กัน ก็คือ
เรื่องของการจำนำข้าว การจำนำข้าวนี่ดี ในส่วนของเกษตรกรที่ได้รับราคาจากการส่วนต่างของการให้ราคาข้าวที่สูงขึ้นจากตลาดความเป็นจริง นิดหนึ่งเพื่อให้เกษตรกรนี่
มีความมั่นคงในอาชีพ แต่ไปเสียในช่วงปลายอยู่นิดเดียวนะครับ ที่มีการทุจริตที่เห็นเป็นข่าวกัน
ขึ้นมา แล้วพอไปอีกรัฐบาลหนึ่งก็กลายเป็นเรื่องของประกันรายได้ ประกันรายได้คือ อะไร ประกันรายได้คือการที่ปล่อยไปให้เป็นไปตามกลไกตลาดที่ผ่านมา โดยคนที่กำหนดราคาก็คือผู้ส่งออก ซึ่งก็มีไม่กี่ราย ซึ่งเป็นรายใหญ่ ผู้ส่งออกกำหนดราคาขึ้นมา โรงสีอีก 
1โรง โรงสี 2,000 โรงสีทั่วประเทศก็เป็นผู้ซื้อนะครับ และโรงสีก็อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องเกษตรกร ส่วนคนที่ถูกต่อว่ามากที่สุดก็จะเป็นโรงสีนะครับ ที่ผ่านมาผมก็เลยอยากให้ท่านสมาชิกทุกท่านช่วยกันคิดว่าเราจะหาทางออกเรื่องนี้กันอย่างไรดี 20 ปี ก็ใช้งบประมาณปีหนึ่งเป็นแสนแสนล้านนะครับ ผมก็เลยมองดูว่าโครงการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มีอยู่นะครับ 
โครงการชะลอการขายซึ่งก็ดีครับ แต่ก็ได้รับงบประมาณแค่ 4,000 กว่าล้านบาท ในฤดูที่ผ่านมา ซึ่งน้อยมาก และโดยเฉพาะเรื่องการปรับปรุงพันธุ์ข้าวนะครับ กรมการข้าวก็ถูกตัดงบประมาณไปอีก ซึ่งในประเทศไทยการบริโภคข้าวปีหนึ่งประมาณสัก 8 ล้านตันที่อยู่ภายใน ส่งออกประมาณสัก 10 ล้านตัน แทบจะหมดแล้ว ทีนี้หลาย ๆ กระทรวงมี
ทูตพาณิชย์ ไม่ว่ากระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผมว่าไปช่วยกันทำการตลาดต่างประเทศบ้างดีไหมครับ เพื่อให้ข้าวของพี่น้องเกษตรกรได้ขายออกได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้คิดโครงการเกษตรนำ นวัตกรรมเสริม แต่ว่างบประมาณก็ถูกตัดไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังมีพอมีทางออกที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ก็คือต้องไปคิด โดยการตั้งโครงการใหม่ ๆ กันขึ้นมาครับ เพราะว่าโครงการที่จะทำให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องเกษตรกรจริง ๆ  
1. เราต้องตั้งราคาขึ้นมาให้สูงพอที่เกษตรกรเขาลงทุนและเขาทำเหลือ เพื่อให้เขาทำอาชีพเขาต่อไปได้ และให้เขามีความแข็งแรงในอาชีพเขา ในเมื่อเกษตรกร ถ้ามีความแข็งแรง
ในอาชีพเขาแล้วนี่ เศรษฐกิจมันก็จะดีตามเองครับ ก็จะเข้าไปจับจ่ายใช้สอยในตลาดคนระดับล่าง ระดับกลาง ระดับบน ก็จะดีไปด้วยหมดแล้วประเทศนี้ก็จะได้อะไรคืนมาครับ ภาษี ภาษีกลับคืนมาในระบบของเศรษฐกิจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ควรน่าจะทำนะครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้ต้องเร่งทำและต้องรีบทำ ถึงแม้ว่าประเทศไทยตอนนี้ราคาสินค้าข้าวก็ยังจะดีขึ้นอยู่ เพราะอะไรครับ เพราะประเทศอินเดียหยุดส่งออก ถ้าวันหนึ่งวันใดขึ้นมาประเทศอินเดียเขาเริ่มส่งออกเมื่อไร ปัญหาของประเทศไทย
คือเรื่องข้าว ยิ่งเฉพาะตอนนี้ราคาตันหนึ่ง 10,000 กว่าบาท ถือว่าเป็นโชคดีของรัฐบาลนะครับ 
ที่ไม่ต้องไปใช้เงินสนับสนุนเยอะ ฝากเรื่องนี้ผ่านท่านประธานไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้เร่งทำและเร่งดำเนินการทำเรื่องนี้ เพื่อให้ประเทศไทยและประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรที่เป็นชาวนามีความเข้มแข็งและมีความแข็งแรง
ในอาชีพนี้ 
อีกเรื่องหนึ่งครับ เป็นเรื่องของยาเสพติดที่งบประมาณใช้มากัน 4,000 กว่าล้านบาท ซึ่งถามว่าเพียงพอไหมแก้กันมาเท่าไรครับ แก้กันมาหลายรัฐบาลจนถึงรัฐบาลปัจจุบันก็ยังแก้
เรื่องนี้กันไม่จบ โดยเฉพาะกฎหมายที่ออกมาอ่อนมาก ออกมาไม่รู้ว่ากลายเป็นเหมือนไปเข้าข้างผู้ค้าไปแล้วนะครับ อย่างเช่น 5 เม็ด เป็นผู้เสพ ผู้เสพพอไปจับก็เอาไปเข้าศูนย์ขวัญรักษา 7 วัน 
ก็ไปเกาะกลุ่มกัน กลับออกมากลายเป็นผู้ค้ากระจายเครือข่ายออกไปเยอะแยะเลยนะครับ ก็ฝากถึงกระทรวงสาธารณสุขนะครับ ช่วยตั้งงบประมาณหน่อยเถอะครับ เอาผู้ที่เสพนี่ไปรักษาสัก 
3 เดือน 4 เดือน ให้หายขาดจริง ๆ เพื่อจะได้แก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดได้ และก็ขอให้กฎหมายเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดนี่ 1 เม็ด ก็ขอให้ผิดเถอะครับ อย่าปล่อยให้ไปถึง 5 เม็ด หรือ 10 เม็ดเลยครับ ที่ผ่านมาประเทศไทยแย่มาแต่เรื่องยาเสพติดมากมายพอสมควรแล้วนะครับ 
สุดท้ายนี้งบประมาณทั้งหมดที่มีอยู่ ผมในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ขอสนับสนุน
ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 
🐅🐅ต้อย รอบรั้วภูธร 0619782952-0838823240 🐅🐅

ไม่มีความคิดเห็น: