04 เมษายน 2567

การบังคับใช้กฎหมายการประกอบธุรกิจและอาชีพของคนต่างด้าวที่ละเมิดกฎหมาย​

ตามนโยบายของ ฯพณฯ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รรท.ผบ.ตร. ให้เร่งรัด พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ควบคุมกำกับดูแลให้ พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ตั้งชุดปฏิบัติงานป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดของคนต่างด้าว  เป็นต้นมา โดย พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน บก.สส.ภ.8 จัดกำลังสนับสนุนในการปฏิบัติ  

1.เมื่อชาวต่างชาติเข้ามาในราชอาณาจักร เปลี่ยนสถานะจากนักท่องเที่ยวเป็นผู้ประกอบธุรกิจและประกอบอาชีพ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายบัญญัติไว้ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 และ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551  

2.ชาวต่างชาติที่ถือหุ้น อันเป็นทุนจดทะเบียนของนิติบุคคล ซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย ทำให้ทุนต่างชาติจำนวนมากอำพรางตนเข้ามาประกอบธุรกิจในฐานะนิติบุคคลไทย ด้วยการถือหุ้นทางอ้อม อย่างผิดกฎหมาย ด้วยการถือหุ้นผ่านบุคคลหรือนิติบุคคลไทย (nominee) 

3.พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 บัญชีท้าย พ.ร.บ.ดังกล่าว ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศ ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี หัตถกรรมพื้นบ้าน หรือธุรกิจที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และด้วยเหตุผลพิเศษ 

4.การตรวจสอบยังพบว่าชาวต่างชาติ ซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล อันเป็นการเป็นผ่าฝืน พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ.2561 ที่บัญญัติ การซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน สินทรัพย์ดิจิทัลต้องได้รับอนุญาตจาก  คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพราะจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงิน ระบบเศรษฐกิจของประเทศ และอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นวงกว้าง 

5.ต้องป้องกันไม่ให้มีการนำสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่มีแหล่งที่มาชัดเจนไปใช้ประโยชน์หรือกระทำการหลอกลวงประชาชนหรือประกอบอาชญากรรม ผู้กระทำต้องขออนุญาตต่อ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เป็นกลไกการดูแลรักษาเสถียรภาพทางการเงินและระบบเศรษฐกิจ เพื่อกำกับดูแลการระดมทุนต่อประชาชนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัล

จากการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานทั้งชาวไทยและต่างประเทศร่วมกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่าง พ.ศ.2542 ด้วยการถือหุ้นทางอ้อม อย่างผิดกฎหมาย ด้วยการถือหุ้นผ่านบุคคลหรือนิติบุคคลไทย (nominee) ประกอบ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2551 นำไปสู่การขอออกหมายตรวจค้นและจับกุมผู้ต้องหาในวันนี้ (4 เม.ย.2567) 

วันนี้ (4 เม.ย.2567) เวลา 07.00 น. ในพื้นที่ ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.ศรัญญู ชำนาญราช รอง ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต, พล.ต.ต.นภันวุฒิ เลี่ยมสงวน ผบก.สส.ภ.8 ประชุมชี้แจง 6 ชุดปฏิบัติการ บูรณาการกำลังร่วมกับฝ่ายปกครอง, พานิชย์จังหวัดภูเก็ต, หน่วยงาน ตร.ทท. และ ตม.ภูเก็ต เพื่อเข้าตรวจค้น จำนวน 5 เป้าหมาย เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ทรัพย์ของกลาง และพบพยานหลักฐานอื่นอันนำไปสู่การสอบสวนขยายผล
กรณี บุคคลที่ร่วมกันให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต และการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่เพียงผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว(nominee) เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงกฎหมาย 
จากการสืบสวนบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยลักลอบประกอบอาชีพ หรือประกอบธุรกิจอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย พบพยานหลักฐานและข้อมูลจากแหล่งข่าวว่า ร้านอาหาร OCTOPUS เป็นที่นัดรวมชาวต่างชาติเป็นประจำ มีการกระทำอันฝ่าฝืนกฎหมาย   โดยกลุ่มบุคคลด้าว ซึ่งได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักร ดำเนินการประกอบธุรกิจในประเทศไทย  โดยมีคนไทยให้การช่วยเหลือ สนับสนุน  ทำการจดทะเบียนเพื่อจัดตั้งบริษัทฯ กระทำการเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนของคนต่างด้าว หรือที่เรียกว่า “nominee”  
ในคดีนี้ บริษัท วีวีจี อะไลอันซ์ จำกัด ผู้ต้องหา ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มใช้ชื่อร้านว่า “OCTOPUS” ตั้งอยู่ เลขที่ 153/2 ถนนบ้านดอน-เชิงทะเล ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง โดยนางสาวปุณยนุช  ทองกอบ สัญชาติไทย ผู้ต้องหา และนายวาลาดิสลาฟ  ชินาคอฟ (VLADILAV ZINAKOV)  สัญชาติรัสเชีย ผู้ต้องหา เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ 
มีผู้ถือหุ้น ดังนี้ 
1.นางสาวปุณยนุช ทองกอบ ผู้ต้องหาที่ 2 จำนวนหุ้นที่ถือ 20,400 หุ้น, คิดเป็น 51% 
2.นายวาลาดิสลาฟ ชินาคอฟ ผู้ต้องหาที่ 3 จำนวนหุ้นที่ถือ 9,800 หุ้น คิดเป็น 24.5%
3.นายวาเลรี โวลโคเดฟ ผู้ต้องหาที่ 4 จำนวนหุ้นที่ถือ 9,800 หุ้น คิดเป็น 24.5%
4.นายพาเวล  ชาโปวาลอฟ (PAVEL SHAPOVALOV) ผู้ต้องหาที่ 5 ทำหน้าที่ในการบริหาร ดูแลทางด้านการเงิน และมีอำนาจตัดสินใจแทนผู้ต้องหาที่ 3 

นายวาลาดิสลาฟ ชินาคอฟ (VLADILAV ZINAKOV) ผู้ต้องหาที่ 3 ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน OCTOPUS ที่แท้จริง พยานหลักฐานเชื่อมโยง ยังปรากฎ นางสาวปุณยนุช  ทองกอบ ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้มีอำนาจและหุ้นส่วนใหญ่ เป็นเพียง nominee ของกลุ่มทุนต่างชาติ  มิได้มีอำนาจในบริษัทฯแต่อย่างใด พยานหลักฐานด้านการเงินแสดงให้เห็นว่า บัญชีเงินฝากจากสถาบันการเดินของทางร้าน OCTOPUS โอนต่อไปบัญชีเงินฝาก นายวาลาดิลาฟ ชินาคอฟ ผู้ต้องหาที่ 3 ชี้ให้เห็นว่าผู้ต้องหาที่ 3 คือ เจ้าของร้านและเป็นเจ้าของ บริษัท วีวีจี อะไลอันซ์ จำกัด อย่างแท้จริง มีเงินหมุนเวียนจำนวน 80 ล้านบาท 
หลังการตรวจค้นทั้ง 5 จุด ยังพบทรัพย์ของกลาง พยานเอกสารของกลาง ที่ต้องพิจารณาเพื่อขยายผลในการสืบสวนสอบสวนต่อไป เชื่อว่ายังไปเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นจำนวนหนึ่ง 
ตำรวจภูธรภาค 8, กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภาค 8 และตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต  ขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เกี่ยวกับบริษัทต่างๆ ซึ่งจดทะเบียนบริษัท แล้วประกอบธุรกิจในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตหรือในราชอาณาจักรฯ ให้หยุดการกระทำในลักษณะดังกล่าว
☎️☎️ต้อย​ รอบ​รั้ว​ภูธร-0838823240​-0619782952​☎️☎️

ไม่มีความคิดเห็น:

จังหวัดนครสวรรค์ จัดงานสืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอท่าตะโก ประจำปี 2568 เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเทศกาลเข้าพรรษา​

วันนี้ 9 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์ท่ารถท่าตะโก อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ จัดงานสืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษาอำเภอท่าตะโก ประจำปี 25...