เด็กชายขอบบ้านครูน้ำทำกิจกรรมจิตอาสาเทิดพระเกียรติ ร.10 ขอให้ในหลวงมีความสุขอายุยืนยาว

                ที่มูลนิธิบ้านครูน้ำ ตั้งอยู่ บ้านสันธาตุ ม.9 ตำบล โยนก อำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย เด็กกำพร้าไร้สัญชาติ อายุ 5 -25 ปี จำนวน 86 คน( ชาย 48 คน หญิง 36 คน) นำโดย น.ส.นุชนารถ  บุญคง( หรือ “ครูน้ำ”ผู้จัดการมูลนิธิบ้านครูน้ำ พร้อมด้วย เครือข่ายแพทย์อาสา(พ.อ.ส.)นายเอราวรรณ์ ขัตติวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสันธาตุ นายอดุลย์ ยางยุทธผู้ใหญ่บ้านบ้านสันธาตุ ชาวบ้านบ้านสันธาตุและคณะกรรมการมูลนิธิฯ  ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมจิตอาสาเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวัน เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา โดยมีพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะจังหวัดเชียงราย เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา  เป็นประธาน ในการประกอบพิธีในครั้ง               การจัดจิตอาสาเทิดพระเกียรติ ร.10 มีวัตถุประสงค์ เพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 72 พรรษาเพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ท่าน และเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล              โดยกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การเปิดป้ายในหลวง รัชกาลที่ 10 ของ แพทย์อาสา  การเปิดป้ายสำนักงานประสานงานแพทย์อาสา (พ.อ.ส.) จังหวัดเชียงราย และศูนย์ช่วยเหลือเด็กยากไร้(กำพร้า)ตะเข็บชายแดน กิจกรรมทำน้ำโบท็อก โดยน้องๆจาก มูลนิธิบ้านครูน้ำ ได้ร่วมกันทำน้ำเพื่อรักษาสมดุลร่างกายให้มีแรงต้านทานโรคต่างๆ  ซึ่งน้ำโบท็อกดังกล่าวเมื่อ 3 ปีก่อน ทางเครือข่ายแพทย์อาสา(พ.อ.ส.) โดยหมอกาละบูน ได้นำองค์ความรู้ทางแพทย์แผนไทยเกี่ยวกับสมุนไพรมาปรุงแต่งเป็นสารอาหารแทนยาแคปซูนสมุนไพรแต่เนื่องจากไม่ตอบโจทย์เพราะคนไม่มีความรู้ก็ไม่สามารถทำเองเพื่อรับประทานได้ทั้งยาสมุนไพรดังกล่าวก็ต้องหาซื้อมาประกอบเป็นตัวยาทำให้ไม่เป็นที่นิยมแต่เมื่อได้รับโอกาสจากโครงการหมู่บ้าน 4.0 จึงได้ไปฝึกอบรม “อาหารต้านโรค”จึงได้เมนูสูตรนี้มา ต่อมาได้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด 2019 ทางมูลนิธิบ้านครูน้ำเกิดปัญหาเด็กๆ ที่เป็นเด็กกำพร้าไร้สัญชาติที่อยู่ในมูลนิธิจำนวนหลายคนได้เป็นโรคโควิด จึงนำน้ำโบท็อก ต้านโรคมาให้น้องๆทาน ผลรับคนที่ป่วยก็หาย ส่วนผู้ที่เข้าข่ายถูกกักตัวก็ไม่ติด จึงได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับน้องๆของมูลนิธิจำนวน 16 คน เพื่อช่วยกันผลิตน้ำโบท็อกดังกล่าวเพื่อใช้ในมูลนิธิและแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ต้องการ ซึ่งพืชสมุนไพรส่วนใหญ่ได้จากพืชรั้วกินได้ในท้องถิ่นเช่นกล้วย สับปะรด มันแกว ขิงข่า ตะไคริใบมะกรูด เป็นต้น กิจกรรมนวดเท้าด้วยน้ำสมุนไพร และกิจกรรมที่สำคัญคือเด็กได้ร่วมกันปฏิญาณตน ต่อหน้าพระบรมฉายาลักษร์ในหลวง การถวายถวามจงรักภักดี ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญและสะบัดธงชาติไทยไปพร้อมๆกัน อีกด้วย           เด็กชายอโร มาเยอะ 9 ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านสันธาตุ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ชั้นประถม ปีที่ 3 กล่าวว่า ถ้าไม่มีในหลวง พวกตนก็ไม่มีแผ่นดินไทยที่ให้ได้อยู่อาศัย มีในหลวงทำให้เราได้อยู่ดีกินดีสุขสบาย เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของในหลวง ขอให้พระองค์มีแต่ความสุขขอให้อายุยืนนานครับ          เด็กหญิงนิตตายา ธนกิจพิชัยชาญ ายุ 9 ปี เรียนอยู่ที่โรงเรียนบ้านสันธาตุอำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงราย ชั้นประถมปีที่ 4 กล่าวว่า ถ้าไม่มีในหลวง พวกเราก็ไม่ได้เล่าเรียน หนูอยากจะบอกในหลวงว่าหนูรักในหลวง ขอให้ในหลวงมีความสุข ร่างกายแข็งแรงและในหลวงอายุยืนนาน