29 กรกฎาคม 2567

น่าน-สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ เปิดโครงการยกระดับองค์ความรู้สำหรับเด็กและเยาชน เพื่อการตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพ ในพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 ห้องเรียนสู้ฝุ่น สู่ฝัน

ที่โรงแรมอูปแก้วรีสอร์ท อำเภอปัว  จังหวัดน่าน  นายศราวุธ   พุฒตรง  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิด  โครงการ  ยกระดับองค์ความรู้สำหรับเด็กและเยาชน   เพื่อการตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพ จาก“ห้องเรียนสู้ฝุ่น   สู่ฝัน “   ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  สสส. ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดน่านและสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาน่านเขต 2  ได้เปิดโครงการ  เพื่อยกระดับองค์ความรู้สำหรับเด็กและเยาชน     ในพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กสู่นโยบายสาธารณะ  ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส)     ได้จัดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อการตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพ ในพื้นที่เสี่ยงต่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กสู่นโยบายสาธารณะ  สร้างโรงเรียนหรือสถานศึกษาต้นแบบการรับมือกับฝุ่น PM2.5 ผ่านองค์ความรู้และข้อมูลวิทยาศาสตร์มีระบบข้อมูลองค์ความรู้ นวัตกรรมต่างๆ  ที่เกี่ยวกับฝุ่น PM2.5 และชุดกิจกรรมเสริมหลักสูตร สำหรับใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียน  เกิดความร่วมมือระหว่างโรงเรียนหรือสถานศึกษากับภาคีเครือข่าย ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเชิงพื้นที่ด้วยตนเอง และสามารถสื่อสารเรื่องภัยฝุ่น PM2.5 ส่งต่อไป  ยังครอบครัว ชุมชน และสังคมได้     หลังมีหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่า PM 2.5 สามารถสะสมในถุงลมฝอยของปอด และสามารถแทรกซึมเข้าสู่กระแสโลหิต และกระจายไปทั่วร่างกาย ซึ่งได้กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับที่ 5 ของประชากรโลกในปี 2558 นอกจากนี้ปี 2559 องค์การอนามัยโลก  ได้ประกาศว่าทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ 7 ล้านคน  เกิดจากมลพิษจากอากาศภายนอกอาคาร (Ambient Air) 4.2 ล้านคน โดยร้อยละ 91 เกิดในประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแปซิฟิกตะวันตก สำหรับในประเทศไทยมีการรายงานการพบความเชื่อมโยงการได้รับสัมผัส PM2.5 และผลกระทบต่อการตายก่อนวัยอันควร โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนใหญ่ได้แก่ เด็กและผู้สูงอายุ        ทางด้าน นายแพทย์ พงศ์เทพ  วงศ์วัชรไพบูลย์  ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  ได้กล่าวว่า เพื่อเป็นการรับมือกับสถานการณ์วิกฤตที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน  ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงอย่างกลุ่มเด็กและเยาวชนที่อาศัยในพื้นที่มีการพบการเผาเป็นปริมาณมาก ตลอดจนพื้นที่ที่ประสบกับปัญหาหมอกควันข้ามแดนอยู่ประจำ ซึ่งก่อให้เกิดการสะสมของสารพิษในร่างกายอันส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้   จึงเป็นที่มาของโครงการ “สร้างองค์ความรู้สำหรับเด็กและเยาวชนเพื่อการตระหนักถึงปัญหาด้านสุขภาพในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM2.5” ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบค่าฝุ่นละออง เกินค่ามาตราฐานเป็นประจำทุกปี ประกอบด้วย โรงเรียนในพื้นที่ ภาคเหนือ   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร รวมถึงโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่รอยต่อชายแดนระหว่างประเทศ ได้แก่ ไทย-ลาว ซึ่งต่างก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่วิกฤต  การดำเนินการทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นถือได้ว่าเป็นหนึ่งในมาตรการในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 มาตรการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ  ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงวิเคราะห์หาสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ จิตสำนึกที่ดีเพื่อให้เกิดการนำ ไปสู่ความผาสุกและคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน  สมาน  สุทำแปง/น่าน

ไม่มีความคิดเห็น:

เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำ เพื่อบูรณาการบริหารจัดการน้ำ พื้นที่ภาคเหนือลุ่มน้ำยม-น่าน ก่อนจะผันบางส่วนเข้าในบึงบอระเพ็ด

            วันนี้ 6 ตุลาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณปากคลองบอระเพ็ด ประตูดำ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้...