รอบรั้วภูธรนิวส์: ประธานชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางติดตาม คณะกรรมาธิการการปกครอง สภาผู้แทนราษฎรเรื่องกำหนดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาศึกษา ร่างพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ห้องประชุม 405 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา กำนันยงยศ แก้วเขียว ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย พร้อมคณะ ได้เดินทางติดตามเป็นอย่างคณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาศึกษา ร่างพระราชบัญญัติลักษณะ ปกครองท้องที่ สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 จำนวน 3 เรื่อง 1.พิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ และ กฎหมายจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีการเปลี่ยนแปลงฐานะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนคร กระทบกับการดำรงอยู่ของตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านแพทย์ประจำตำบลและสารวัตรกำนัน 2.พิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่กรณีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดในฐานความผิดตามมาตรา๑๒ (๑๑) แห่งพระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ 3.พิจารณาติดตามการพัฒนากิจการฌาปนกิจสงเคราะห์กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบลสารวัตรกำนัน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ของกรมการปกครอง ด้านนายบัญชา เดชเจริญศิริกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคกล้าธรรม ได้ขออภิปราย ร่างพระราชบัญญัติลักษณะการปกครองท้องที่ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องการดำรงตำแหน่งของตำแหน่งผู้ใหญ่บ้านซึ่งสถาบันกำนันผู้ใหญ่บ้านวันนี้ 133 ปีที่มาคู่กับประเทศไทย กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่รัฐโดยตำแหน่ง อยู่คู่กับสังคมไทย ไม่ยาวนาน ซึ่งมีหน้าที่สำคัญหลายอย่างในด้านความสงบเรียบร้อยแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอำนวยความเป็นธรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับราษฎรในพื้นที่และยังขับเคลื่อนนโยบายของรัฐอีกทั้งยังปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่กำหนด ในหมู่บ้านและตำบล เนื่องด้วยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในมาตรา 12 (11) ก็เลยมีประเด็นว่าตำแหน่งกำนันผู้ใหญ่บ้านหรือ ที่มาจะทำอย่างไรให้ชัดเจน ก็เลยมีการแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมเข้ามาที่กระทรวงมหาดไทยได้ส่งเข้ามาที่สภาในวันนี้เพื่อให้ท่านสมาชิกได้แสดงความคิดเห็นได้อภิปรายร่วมกันซึ่งก็จะเป็นการแบ่ง เป็นหมวดกหรือหมวดขอในฐานความผิดอย่างเช่น ความผิดเรื่องยาเสพติด เรื่องป่าไม้ และมีอีกหลายเรื่อง ที่เขียนว่าร่างนี้ซึ่งที่ผ่านมาก็กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ว่าผู้ที่ทำผิดในหลายเรื่องเหล่านี้ไม่สามารถลงสมัครผู้ใหญ่บ้านได้มีการแก้ไขกฎหมายได้ชัดเจนว่ากฎหมายอะไรที่มันจะสามารถผ่อนปรนหรือให้ผู้ที่เคยหลงผิดหรือเคยกระทำความผิดอย่างเช่น ยาเสพติดที่ผ่านมานี้ก็คือสมัครกำนันผู้ใหญ่บ้านไม่ได้แต่กฎหมายนี้ ก็ได้พยายามเปลี่ยนแปลงได้แก้มาให้ให้ผู้ค้าผู้เสพผู้นำเข้า หมดสิทธิ์เลย แต่ไกลว่าเป็นผู้เสพหนี้ ให้ 10 ปีเหมือนกันเหมือนกฎหมายอย่างเช่น เรื่องการพนัน การพนันเจ้าสำนักหรือเจ้ามือนี่ก็คือหมดสิทธิ์จะเป็นเลยแต่ผู้ พูดเล่น พูดแทงสมมุติ อย่างไฮโล เจ้าเขย่านี่ ผิดเลยก็คือไม่สามารถสมัครผู้ใหญ่บ้านได้แต่ว่าคนแทงก็คือหลังจากนั้น 10 ปีก็อาจจะกลับมาเป็นได้ก็มีการเปิดช่องประเด็นให้ผู้ที่จะกลับตัวกลับใจในสังคมซึ่งในสมัยเด็กๆอาจจะเคยเกเรไปบ้าง แม้แต่เรื่อง พรบ. เงินกู้ก็เหมือนกัน ผมก็เลยมีข้อสังเกตคำว่ายาเสพติดหรือผู้เสพมันกว้าง เหลือเกิน ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยได้สั่งการไปทุกๆอำเภอทั่วประเทศ 878 อำเภอ ให้ค้นหาผู้ค้า ผู้เสพ คำว่า ผู้เสพในที่นี้มันถูกคัดชื่อเข้ามาทุกตำบลทุกหมู่บ้านทั่วประเทศเยอะแยะมากมายกฎหมายก็ต้อง เอาให้ชัดว่าผู้เสพเราจะเอากัน แบบล็อคเลยหรือไม่ให้กลับมาดำรงตำแหน่งหรือเอา 10 ปีหรือจะเอาสัก 20 ปีเพื่อให้เยาวชนบรรลุนิติภาวะไปก่อนแล้วค่อยมาเป็นผู้นำชุมชนในพื้นที่อันนี้ก็สามารถแก้ไขเพิ่มเติมในชั้นกรรมาธิการได้ ก็อยากให้ทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นกันนิดนึง ด้านสมาชิกที่พูดถึงเรื่องอำนาจหน้าที่กำนันผู้ใหญ่บ้าน กับเทศบาลจริงๆแล้วกำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นเจ้าหน้าที่รัฐไม่ใช่นักการเมือง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ เรื่องการเมืองหรือเรื่องท้องถิ่นมันคนละกฎหมายกัน ก็ถือกฎหมายลักษณะปกครองท้องที่ 2475 อยู่ภายใต้กฎหมายลักษณะปกครองท้องที่ในมาตรา 26 ปฏิบัติหน้าที่ดูแลช่วยเหลือนายอำเภอ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงบประมาณ ซึ่งหนึ่งงบประมาณที่เล็กน้อยมากที่เขาจะได้ค่าตอบแทน ผู้ช่วยแพทย์ สารวัตร เงินเดือน 6,000 บาทผู้ใหญ่บ้าน 10,000 บาท กำนัน 12,000 บาท ได้ขั้นละ 300 บาท นายบัญชาเดชเจริญสติกุลได้กล่าวทิ้งท้ายว่าเคยเป็นกำนันมา 10 ปีกำนันเงินเดือนยังไม่ถึงหมื่น ต้องลาออกมาเมื่อสัก 2 ปีที่แล้ว บวกขั้นมาจนถึงทุกวันนี้ก็ทำงานกันด้วยต้องบอกว่าทำงานเข้าด้วยจิตอาสาจริงๆ ในลักษณะ ของกฎหมาย 2 ฉบับนี้ไม่ซับซ้อนเลย เขาสร้างขึ้นมาให้คู่กัน เพื่อให้ทำงานคู่กันไป โดยเฉพาะความจำเป็นในท้องที่